ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2558

 

 

http://www.thaigov.go.th

 

                   วันนี้ (21 กรกฎาคม 2558) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี

?                    ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด และพลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค            รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  สรุปสาระสำคัญดังนี้

 




กฎหมาย

 

                    1.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ....

                    2.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

                    3.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

                    4.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. ....

                    5.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. ....

                    6.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ตำรวจกองประจำการ)

                    7.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ...

                    8.       เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการ                                             สอบสวนคดีพิเศษ  (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

                    9.       เรื่อง     ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุย                                       วิทยฐานะและเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. ....

                    10.      เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทาน

                                        ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 10 ฉบับ

 




สังคม – เศรษฐกิจ

 

                    11.      เรื่อง     การขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับขึ้นเงินเดือนร้อยละ 4 ให้กับพนักงาน                                         มหาวิทยาลัยที่จ้างโดยเงินงบประมาณแผ่นดิน

                    12.      เรื่อง     ขออนุมัติดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการเบิกจ่ายค่าตอบแทน                                          กำลังคนด้านสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข ตามมติคณะรัฐมนตรี

                                        เมื่อวันที่ 26 และวันที่ 31 มีนาคม 2556

                    13.      เรื่อง     ร่างข้อบังคับสภาทหารผ่านศึก ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานและครอบครัว                                        (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

                    14.      เรื่อง     ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในงานบริการภาครัฐเพื่อป้องกัน                                        การทุจริต

          15.      เรื่อง     ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2558 และ

                              ครั้งที่ 2/2558

                    16.      เรื่อง     แนวทางการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน                                                  จากภัยแล้ง

                    17.      เรื่อง     การขอขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ                                          สิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณ                                          พื้นที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

                                        พ.ศ. 2553 และประกาศกระทรวงฯ ในบริเวณพื้นที่จังหวัดชลบุรี (ฉบับที่ 2)

                                        พ.ศ. 2555 รวม 4 ฉบับ ออกไปอีก 1 ปี

                   18.      เรื่อง    การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2558   

                    19.      เรื่อง     การให้ความช่วยเหลือประชาชนจากเงินเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน                                       ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย                                      พิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556

 




ต่างประเทศ

 

                    20.      เรื่อง     การลงนามในร่างพิธีสารว่าด้วยการเปิดตลาดทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับ                                            ไลบีเรียภายใต้กระบวนการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกของ                                           ไลบีเรีย

                    21.      เรื่อง     ผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ                                     ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ (CITES) ต่อรายงานความก้าวหน้าการ                                         ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข (Thailand’s                                         Revised National lvory Action Plan - NIAP)

                    22.      เรื่อง     ร่าง Joint Statement of ASEAN Plus Three Health Ministers’ Special                                        VDO Conference on the Threat of MERS-CoV in the Region

                    23.      เรื่อง     ขออนุมัติจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง                                          สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือ                                              เดินทางธรรมดา

 




แต่งตั้ง

 

                    24.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                             ทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี)

                    25.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการ                                           อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)                                                  (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก                                                 พระราชดำริ)

                    26.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                           (กระทรวงพลังงาน)

                    27.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ

                    28.      เรื่อง     แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับ                               ออกไปนอกราชอาณาจักร

 

 

 

 

                    29.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง                                                          กระทรวงมหาดไทย

                    30.      เรื่อง     คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่  184/2558 เรื่อง  ปรับปรุงการมอบหมายและมอบ                                      อำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตาม                                       กฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

 

 

*******************

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




สังคม – เศรษฐกิจ

 

14.  เรื่อง  ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในงานบริการภาครัฐเพื่อป้องกันการทุจริต

                   คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในงานบริการภาครัฐ เพื่อป้องกันการทุจริต เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามนัยมาตรา 19 (11) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ

                   ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. และกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อมาตรการในการป้องกันการทุจริตและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและให้สำนักงาน ก.พ.ร. และกระทรวงการคลังจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง

                   สาระสำคัญของเรื่อง

                   สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานว่า  ได้นำเสนอถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในงานบริการภาครัฐ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. อยู่ระหว่างดำเนินโครงการบูรณาการงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาของระบบบริการภาครัฐในปัจจบัน ให้สามารถเชื่อมโยงระบบงานบริการภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยยกระดับบริการอำนวยความสะดวก   ลดภาระประชาชนและภาคธุรกิจ ลดการติดต่อและการใช้ดุลพิจนิจ ซึ่งจะสร้างความโปร่งใสและลดความเสี่ยงการทุจริตได้ โดยมีแผนดำเนินการในงานบริการหลักภายใน 3 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 – 2560) โดยให้บริการภาครัฐผ่านระบบออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในภาพรวม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถป้องกัน/ลดความเสี่ยงต่อการทุจริต และการเอื้อประโยชน์ต่าง ๆ เกิดความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ลดต้นทุนและลดขั้นตอนการดำเนินการและสร้างโอกาสในการแข่งขัน เป็นต้น โดยเสนอมาตรการที่รัฐบาลควรดำเนินการ ดังนี้

                   1. มาตรการเร่งด่วน รัฐบาลควรส่งเสริมโครงการบูรณาการงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพของสำนักงาน ก.พ.ร. และสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุผล โดยนำร่องในโครงการเกี่ยวกับการนำเข้า – ส่งออก [โดยเฉพาะในสินค้าส่งออกที่ส่งผลกระทบต่อยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP)ประกอบด้วย ยางพารา ข้าวทั่วไป ข้าวหอมมะลิ อาหารทะเลแช่แข็ง ชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องทำความเย็นและตู้แช่แข็ง ] เพื่อให้ทันต่อการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในเดือนธันวาคม 2558 โดยอาจบรรจุโครงการดังกล่าวเป็นมาตรการเสริมในยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 – 2560) ยุทธศาสตร์ที่ 2 เรื่องบูรณาการการทำงานในการต่อต้านการทุจริตและพัฒนาเครือข่ายในประเทศ

                   2. มาตรการระยะยาว รัฐบาลควรให้การส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณในการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการปรับปรุงงานบริการภาครัฐ  โดยเฉพาะในระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชนที่รับบริการ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการติดตามตรวจสอบให้สามารถทำได้ง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดทุจริต

 


16. เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง

                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง  และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป

                    สาระสำคัญของเรื่อง

                   เพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ภัยแล้งในระยะต่อไป ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ดังนี้

         

มาตรการ

ผู้รับผิดชอบ

(1)   การแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน

 

(1.1)         การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปล่อยน้ำจากเขื่อน

โดยให้มีการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า รัฐบาลพยายามบริหารจัดการด้านชลประทานให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับภาคการเกษตรโดยเฉพาะการทำนาที่ใกล้ออกรวงและพืชสวนหรือผลไม้ โดยจะต้องพิจารณาจากปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ในขณะนี้ของแต่ละพื้นที่ด้วย

กระทรวงมหาดไทย(มท.) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)

(1.2)         การรณรงค์เพื่อช่วยกันประหยัดน้ำ

 

-          ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่าง

ประหยัดและคุ้มค่า เช่น การซักล้าง  การรดน้ำต้นไม้ และพิจารณาวิธีนำน้ำที่ใช้แล้วมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีก

ทุกส่วนราชการ

-          ให้ขอความร่วมมือจากสื่อต่างๆ ร่วมประชาสัมพันธ์และรณรงค์

ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดผ่านสื่อทุกช่องทาง  ทั้งโทรทัศน์และสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่องทุกช่วงเวลาด้วย

กรมประชาสัมพันธ์

(1.3)         การบริจาคและจัดหาน้ำดื่ม

 

-          กรณีมีข่าวว่าจะมีการขาดแคลนน้ำดื่ม ให้เตรียมการในเรื่อง

ดังกล่าว นอกจากนี้ รัฐบาลจะประกาศเชิญชวนให้บริจาคน้ำดื่มให้แก่ผู้ที่ประสบความเดือร้อนเช่นเดียวกับที่ได้ระดมความช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติไปต่างประเทศ

ทุกส่วนราชการ

-          ในพื้นที่ต่างจังหวัดให้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการ

บริจาคน้ำขวดสำหรับดื่มเพื่อเพิ่มเติมไปยังจุดจ่ายน้ำพระราชทานทุกจุด

ผู้ว่าราชการจังหวัด

(2)   การดำเนินโครงการตามแผนบริหารจัดการน้ำ

 

                   (2.1) การกำหนดให้ภัยแล้งเป็นวาระแห่งชาติ ให้กำหนดการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยให้มีการบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวง

มท. เป็นเจ้าภาพ

                   (2.2) การจัดทำแผนงานโครงการระยะที่ 1-3 ให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนบริหารจัดการน้ำปี 2557-2569 ให้ชัดเจน ดังนี้

                             - ส่วนที่ดำนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วในปัจจุบัน

 

 

 

                             - ส่วนที่ต้องดำเนินการในระยะต่อไปในปี 2559-2560, 2561-2564 และ 2565-2569 พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบโดย           ทั่วกันด้วย

ทุกส่วนราชการที่มีโครงการตามแผนบริการจัดการน้ำปี 2557-2569

                   (2.3) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก

 

-          ให้นำความรู้จากศูนย์เกษตรกรจังหวัด ปราชญ์ชาวบ้านและ

ประสบการณ์จากพื้นที่ซึ่งประสบความสำเร็จในการดูแลและพึ่งตนเองได้เผยแพร่ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกมาเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ตามแนวทางของการจัดพื้นที่ทางการเกษตร (zoning) ในระยะยาว

กษ.และมท. ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

-          ให้จัดจำหน่ายผลผลิตที่ได้จากการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยดังกล่าว

ข้างต้น เช่น จัดตลาดจำหน่ายในพื้นที่ รวบรวมและขนส่งผลผลิตไปยังตลาดนอกพื้นที่ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความต้องการใช้และความสามารถในการผลิตให้สมดุลกันด้วย

กระทรวงพาณิชย์และ กษ.

 

 




ต่างประเทศ

 

23. เรื่อง ขออนุมัติจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา

                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

                   1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

                   2. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในความตกลงดังกล่าว

                   สาระสำคัญของร่างความตกลงฯ ฉบับแก้ไขล่าสุดมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับร่างความตกลงฯ ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 โดยมีรายละเอียดที่แตกต่าง ดังนี้

                   1. ข้อ 1 อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของแต่ละฝ่ายที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและพำนักในประเทศผู้รับได้เป็นเวลาไม่เกิน 14 วัน

                   2. ข้อ 5 การปฏิเสธการเข้าเมือง การลดระยะเวลา และการบอกเลิกการอนุญาต พำนัก สามารถทำได้โดยจะแจ้งเหตุผลหรือไม่ก็ได้ (ร่างความตกลงฯ เดิมระบุว่า “สามารถทำได้โดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล”)

                   3. ข้อ 8 วรรค 2 การยกเลิกความตกลงฯ จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางทางการทูต และความตกลงฯ จะสิ้นสุดลงและไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไปหลังจาก 90 วัน (ร่างความตกลงฯ เดิมระบุที่ 60 วัน) จากวันที่ได้มีการแจ้ง ซึ่งจำนวนวันที่ระบุในร่างความตกลงฯ อ้างอิงจากกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา (ASEAN Framework Agreement on Visa Exemption) ซึ่งได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2549

                   4. ยกเลิกข้อความภาคผนวกเอ (จุดผ่านแดนระหว่างประเทศที่ได้รับอนุญาตซึ่งจัดตั้งโดยราชอาณาจักรไทย) และภาคผนวกบี (จุดผ่านแดนระหว่างประเทศที่ได้รับอนุญาตซึ่งจัดตั้งโดยสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์


 




แต่งตั้ง

 

25. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ)

                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอแต่งตั้ง นายประสาท พาศิริ ที่ปรึกษาด้านการประสานงงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

27. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ

                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้ง            นายพิทักษ์ ดิเรกสุนทร ผู้อำนวยการสำนักบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ แทน            นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี ที่เกษียณอายุราชการและขอลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป

 

..............................

 

 

         

 


  ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ | วันที่ประกาศ :05/08/2558



© สงวนลิขสิทธิ์ 2567 ศุนย์ข้อมูลข่าวสาร
DSDW Information Center
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เลขที่ 1034 ถนนกรุงเกษม แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100